ใครกำลังมองหาที่เที่ยวชิลล์ๆ แถบทะเลใต้ แต่ไม่อยากลงไปไกลมาก “สงขลา” เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เราอยากแนะนำค่ะ เพราะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีแหล่งเช็คอินหลากหลายสไตล์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่า ศิลปะ วัดวาอาราม และธรรมชาติสวยๆ เช่น เกาะยอ
เกาะยอ ไม่ใช่เกาะกลางทะเล แต่เป็นทะเลสาบ นั่นก็คือทะเลสาบสงขลาอันมีชื่อเสียงด้านความสวยงามตามธรรมชาติ เพราะโอบล้อมไปด้วยภูเขามากมาย นอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ความน่าสนใจของเกาะยอยังอยู่ที่วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมือง
ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่อาศัยอยู่รวมกันอยู่บนเกาะนี้ถึง 9 หมู่บ้าน ประกอบอาชีพประมงและเกษตรกรรมเป็นหลัก และทำงานหัตถกรรมเป็นงานเสริมยามว่าง จนเกิดเป็นสินค้าประจำชุมชนที่มีชื่อเสียงมากคือ ผ้าทอเกาะยอ ที่มีรูปแบบการทอเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ตัวอย่างเช่น ลายราชวัตถ์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมสวนผลไม้แบบสุมรุม คือ สวนที่รวมการปลูกผลไม้หลายชนิดไว้ด้วยกัน และเนื่องจากผลไม้แต่ละชนิดจะผลัดกันออกผลต่างฤดูกัน เมื่อปลูกรวมกันจึงทำให้มีผลไม้ออกมาให้นักท่องเที่ยวชิมกันได้ตลอดทั้งปี ผลไม้ที่มีชื่อเสียวของเกาะยอ ได้แก่ มะพร้าว ส้มโอ ขนุน และจำปาดะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของเกาะยอ คือการได้ชมประเพณีเก่าแก่ที่ไม่สามารถหาชมที่อื่นได้ เช่น ประเพณีแห่ผ้าขึ้นเขากุฏ ซึ่งเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นในวันเพ็ญเดือนหก หรือวันวิสาขบูชา โดยในวันนี้ของทุกปี ชาวบ้านจะช่วยกันแห่ผ้าขนาดยักษ์ขึ้นไปห่มเจดีย์ เพื่อเป็นการนมัสการสมเด็จเจ้าเกาะยอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเกาะแห่งนี้
ใครที่เป็นสายธรรมะ บนเกาะยอ นี้ก็ยังมี วัดแหลมพ้อ ที่มีพระนอน (ปางปรินิพพาน) องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศประดิษฐานอยู่ ส่วนสายอาร์ท ก็มีสตีทอาร์ตเกาะยอให้ได้เที่ยวกันแบบชิคๆ สมใจ สายช๊อปก็ไม่น้อยหน้า เพราะบนเกาะยังมีตลาดสินค้าพื้นเมือง ให้ได้ช๊อปกันกระเป๋าสั่นแน่นอน เรียกได้ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเที่ยวสายไหน ก็สามารถเที่ยวได้ครบ จบที่เดียวบนเกาะยอนี้เลยล่ะค่ะ
ติดตาม เที่ยวยังไงให้มันส์ และติดตา อาคาร Golden Mile Complex จุดนัดพบของคนไทยในประเทศสิงคโปร์
