เกาหลีใต้ ก็มีธรรมชาติ 5 สถานที่ท่องเที่ยวดีท็อกซ์ใจด้วยป่าเขียวที่ไม่ควรพลาด

เกาหลีใต้ อาจเป็นที่รู้จักในเรื่องเมืองที่มีเทคโนโลยีสูงและสื่อบันเทิง แต่อันที่จริงแล้วประเทศเล็กๆ แห่งนี้ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความเป็นธรรมชาติอันเงียบสงบภายใต้บรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ความลงตัวในแบบป่าเขียวของตะวันออกไกลผสานเข้ากับอาหารและวัฒนธรรม รวมถึงยาแผนโบราณขึ้นชื่อที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝาก คงไม่ต้องอธิบายเยอะเลยว่า สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของ เกาหลีใต้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับสายธรรมชาติบำบัดที่ต้องการหาสถานที่ดีท็อกซ์กายและใจหลังจากที่ตรากตรำทำงานมาตลอดทั้งปี 

A picture containing tree, outdoor, plant, stone

Description automatically generated
  1. เดินป่าเพื่อสุขภาพที่ซอกวีโพ, เกาะเชจู

อากาศบริสุทธิ์และต้นซีดาร์สูงตระหง่านก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้น ที่ซอกวีโพ (Seogwipo Healing Forest) แห่งนี้ยังได้มีการส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีที่อาบน้ำกลางป่า ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เดินตามรอยวิถีแพทย์โบราณแผนตะวันออกของเกาหลี และยังมีการนวดกดจุด เตียงอาบแดดที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้นอนทอดกายภายใต้ธรรมชาติ รวมถึงการฝึกหัดหายใจและทำสมาธิเพื่อกระตุ้นความสมดุลของร่างกายจากภายใน นับว่าเป็นทริปเดินป่าที่เน้นผ่อนคลายทั้งจิตใจและร่างกายเลยทีเดียว

  1. สดับความเงียบริมทะเลผาแชซอกกัง, จอลลาบุคโด

หน้าผาแชซอกกังตั้งตระหง่านอยู่เหนือชายฝั่งทะเลดูราวกับภาพวาด ความสงบเงียบอันสง่างามนี้เกิดจากความซับซ้อนทางปรากฏการณ์ธรณีวิทยาของธรรมชาติหลายล้านปี เมื่อเดินผ่านแอ่งน้ำขึ้น-น้ำลงไปตามหน้าผา ก็จะเห็นคลื่นซัดเข้ามาจนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง พร้อมอากาศสดชื่นและกลิ่นลมทะเลซึ่งมีกลิ่นเกลือเจือจาง ทำให้การได้นั่งเงียบๆ แล้วชมดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกที่นี่นั้นเป็นความทรงจำอันยากลืมเลือนอย่างยิ่ง ทิวทัศน์อันงดงามมีเอกลักษณ์กอปรด้วยบรรยากาศที่เหมือนกับได้รีเซตตัวเองจากความเหนื่อยล้าทั้งปวง 

  1. ดีท็อกซ์วิถีเซนแบบซอนแมอุล, คังวอน

ที่ซอนแมอุล (Healience Seonmaeul Resort) เป็นหมู่บ้านวิถีเซนซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของภูเขาจองแจซาน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักในสถานที่ที่สร้างความสมดุลในจิตใจและบำรุงร่างกาย พร้อมกิจกรรมมากมาย อาทิ การเล่นโยคะ คลายความเครียดในห้องซาวน่าดินเผาแบบดั้งเดิม หรือแม้แต่พาสุนัขของรีสอร์ตตัวใดตัวหนึ่งไปเดินเล่นบนเส้นทางธรรมชาติที่มีไกด์นำทาง รวมรับประทานอาหารจากพืชปลอดสารพิษ เป็นต้น หากคุณอยากชัตดาวน์ตัวเองจากโลกอันวุ่นวาย ลองมาใช้เวลาแบบไร้โลกดิจิตัลที่นี่

  1. ท่องย่านลับบูอัมดง, โซล

ลองก้าวเดินไปอย่างไม่เร่งรีบในย่านบูอัมดง (Buam-dong) ซึ่งเต็มไปด้วยแกลเลอรีอิสระและเวิร์คช็อปช่างฝีมือ ในความเป็นจริงคุณอาจลืมไปแล้วว่าคุณอยู่ในมหานครอันพลุกพล่านของอย่างโซล ในย่านนี้ไม่มี Starbucks แผงลอย หรือพนักงานส่งของที่วุ่นวาย คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงบ่ายที่เงียบสงบ เดินไปตามถนนบนเนินเขาคดเคี้ยวรอบบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม พร้อมร้านอาหารรวมถึงคาเฟ่เล็กๆ ของชาวเมืองภายใต้แมกไม้เขียวชอุ่ม เสียงน้ำที่ไหล และหินแกะสลักโบราณ ช่วยให้ผู้ที่เหนื่อยล้าได้มีพื้นที่เงียบสงบเพื่อเติมพลัง

  1. ดื่มชาซึ้งพระธรรมที่เมืองฮาดง, คย็องซังใต้

เมืองฮาดงตั้งอยู่ในหุบเขาจีรีซาน ในฤดูใบไม้ผลิที่เนินเขาของเมืองมีการปลูกชา นอกจากนั้นทิวทัศน์ยังรายล้อมไปด้วยต้นพลัมสีชมพูและสีม่วง เพราะอยู่ใกล้กับพื้นที่อุทยานแห่งชาติจีรีซาน ที่นี่จึงได้บรรยากาศของธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนั้นชาวบ้านในพื้นที่ยังนับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมวัฒนธรรมของชาวพุทธใน เกาหลีใต้  มีวัดสำคัญ และยังมีการแสดงพิธีกรรมทางดนตรีของพุทธศาสนาที่ซับซ้อน เมื่อฟังแล้วเพ่งพิศธรรมชาติคุณก็จะได้เข้าสู่โลกอันสงบถึงจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

หากคุณไม่อยากข่าวสารสถานที่ท่องเที่ยว อัพเดทใหม่ล่าสุด สามารถรับชมก่อนใครได้ที่ เที่ยวยังไงให้มันส์ ขอขอบคุณsumoslotที่คอยนำข่าวสารดีๆให้เราได้รับชม ติดตาม5 ที่ ฮันนีมูน หวานๆในตุรกีที่ต้องไปกับคุณภรรยา คุณสามีสักครั้ง

Back To Top