ดอยอินทนนท์ รับกลิ่นไอธรรมชาติบนดอยสู่เส้นทางอุทยานแห่งชาติ

ดอยอินทนนท์ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 6 ของประเทศไทยถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 แต่เดิมมีชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” หรือ “ดอยหลวงอ่างกา” เหตุที่เรียกว่าดอยหลวงเพราะว่าเป็นดอยที่มีขนาดใหญ่

มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีป่าต่าง ๆ เพียบพร้อม เช่น ป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ เป็นต้น ส่วนที่เปลี่ยนมาเป็น “อินทนนท์” เพราะตั้งเพื่อเป็นเกียรติ์

ตามชื่อกษัตริย์แห่งราชวงศ์ล้านนา พระนามว่า “พระเจ้าอินทวิชยานนท์” เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในอดีต และเป็นบุคคลที่สนพระทัยและทรงห่วงใยป่าเขาทางภาคเหนือเป็นอันมาก เมื่อพระองค์ท่านเสด็จพิราลัยแล้ว พระอัฐิบางส่วนถูกบรรจุที่ยอดเขาแห่งนี้และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ดอยอินทนนท์”

ดอยอินทนนท์เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงเหนือกว่าระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มากมายนัก สำหรับนักท่องเที่ยวท่านไหนที่ต้องการไปสัมผัสธรรมชาติในช่วงหน้าหนาวของดอยอินทนนท์แล้ว อย่างแรกที่ต้องเตรียมคือเสื้อกันหนาว และถ้าให้ดีควรหาที่พักบนดอยอินทนนท์จะดีที่สุด ถ้าตื่นเช้าขึ้นสู่ยอดดอยในวันที่เย็นจัด ๆ ก็จะได้พบกับแม่ขะนิ้ง (น้ำค้างแข็ง) อากาศอาจจะลดต่ำกว่า 0 องศา และทะเลหมอกที่จะรอคอยปะทะเข้าสู่หน้าของท่านโดยตรง

เมื่อขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ท่านจะได้พบกับพระมหาธาตุ 2 องค์ที่ตั้งตระหง่าน ว่ากันว่าเป็นพระมหาธาตุฐาน 12 เหลี่ยมที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในประเทศไทย กองทัพอากาศสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระมหาชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เนื่องในวโรกาสที่มีพระชนมายุครบ 5 รอบ ในปี พ.ศ.2530 และ พ.ศ.2535 ตามลำดับ มีชื่อว่า “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” และ “พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ” ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามบนยอดดอยอินทนนท์

พระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

เมื่อกราบสักการะ 2 พระมหาธาตุแล้ว เลยไปอีกสักอึดใจเดียวก็จะพบกับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ซึ่งมีธรรมชาติที่สมบูรณ์อย่างมาก ทั้งป่าดิบชื้น ทั้งป่าสนเขา หรือรวมไปถึงทุ่งหญ้าที่กว้างขวาง กิ่วแม่ปานนี้นอกจากธรรมชาติที่อุมสมบูรณ์แล้ว จุดชมวิวทิวทัศน์ยังมีมากมายให้ถ่ายรูป ซึ่งก่อนที่กิ่วแม่ปานจะถูกนักท่องเที่ยวเลินเล่อทำก้นบุหรี่ตกเกิดเป็นไฟป่าเผาวอดไปมากมาย ท่านจะได้สัมผัสถึงต้นกุหลาบพันปีที่แย่งกันเบ่งช่อออกดอกสีแดงสด

ในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป และในช่วงนั้นก็อาจจะได้เห็นนกพลัดถิ่นหนีหนาวบินมาจากธิเบต เห็นสายหมอกที่ปะทะกับผาแง่มน้อยซึ่งตั้งตระหง่านมานับเป็นพันพันปี บางทีก็จะเห็นเลียงผาออกมาให้ได้เชยชม และอาจจะยังสามารถเห็น 2 พระมหาธาตุแบบลิบ ๆ อีกด้วย

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

ดอยอินทนนท์ยังไม่หมดที่ให้ศึกษาธรรมชาติ ใกล้ถึงยอดดอยท่านจะได้พบกับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา ซึ่งก็มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของดอยอินทนนท์ ซึ่งเมื่อประมาณ 20 – 30 ปีที่แล้ว ยังสามารถเห็นรอยเท้าหมี ในเส้นทางอ่างกานี้ได้เป็นระยะ ๆ อีกทั้งมีดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดให้ได้เดินดูอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ เมื่อเทียบกับกิ่วแม่ปานแล้ว อ่างกาจะมีระยะทางที่ใกล้กว่า แต่ลักษณะความเป็นธรรมชาตินั้นก็ไม่ได้ต่างกันเลย ยังคงอุดมสมบูรณ์ สมกับเป็นยอดดอยอินทนนท์ ดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นความภูมิใจ และเป็นมรดกของคนไทยที่สำคัญ

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา